Responsive Ad Slot



Lifestyle

Startup

Tech

ขออภัย…มือใหม่หัดขับ…ไปทางไหนดี? internet marketing

ขออภัย…มือใหม่หัดขับ…ไปทางไหนดี?




บทความสำหรับมือใหม่ให้อ่านกันเพื่อทำความเข้าใจกับ Internet Marketing ให้มากขึ้น และสามารถเริ่มต้นด้วยความั่นใจและกำลังใจ  

Internet Marketing คืออะไร?

อืมม ถ้าอยากรู้แบบเป็นทางการให้ลองหาอ่านจาก Wikipedia ดูนะครับ แต่โดยส่วนตัวแล้ว Internet Marketing สำหรับผมก็คือ การทำอะไรก็ได้บนเน็ทเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเงิน อีเมล์ สร้างแบรนด์ หรือจุดประสงค์อื่น เรียกโก้ๆหน่อยก็คือการทำตลาดออนไลน์ ส่วนคนทำก็มีชื่อเท่ห์ๆว่า Internet Marketer หรือนักการตลาดออนไลน์ สำหรับเป้าหมายก็คงจะเหมือนกันทุกๆคนคือการทำเงินจากออนไลน์ และนี่คือปัญหาใหญ่ของมือใหม่ครับ เนื่องจากไปติดตามเว็บของคนนี้ทีก็เห็นเค้าทำเงินแบบนึง ไปดูเว็บของอีกคนเค้าก็ทำเงินอีกแบบนึง ไปดูเว็บของคนอื่นอีกมันก็ดันทำเงินได้อีกเหมือนกัน แล้วเราจะเริ่มยังไง? ติดตามคนไหน? ศึกษายังไง? ทำเงินวิธีไหนดี?   ผมบอกได้เลยว่าไม่มีสูตรตายตัวนะครับ เพราะบนเน็ทมีเงินลอยอยู่เต็มไปหมดให้เราไปคว้า ผมแนะนำว่าให้เลือกวิธีที่คุณอ่านและศึกษาแล้วรู้สึกว่าสบายง่ายๆและมีความอยากทำมากๆ สำหรับการทำเงินบนเน็ทนั้น คุณคงต้องรู้เป้าหมายของตัวเองก่อนว่า…สิ่งที่คุณต้องการคืออะไร?
ระยะสั้นๆ เงินใช้แบบก้อนๆ ไม่ทำก็ไม่ได้เงิน ทำเยอะก็ได้เยอะ  ระยะยาวๆ เงินใช้แบบประจำเรื่อยๆในช่วงแรก ไม่หวือหวามากมาย ในอนาคตสามารถออกมาควบคุมชะตาชีวิตของตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งเงินเดือน และใช้เวลาทำงานน้อยลง

แบบแรกเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจ เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องอนาคตระยะยาว อาจจะคิดประมาณว่าวันนี้ข้าทำเงินก้อนได้ เก็บเอาไว้ใช้เวลาไม่ทำก็ได้ ก็แล้วแต่มุมมองคนครับ สำหรับวิธีนี้ไม่ต้องมีความรู้และกลยุทธ์อะไรมากมาย รู้ทริคนิดหน่อยพอ ทำเงินได้ทั้งมากและน้อยในระยะเวลาสั้นๆ แต่ต้องลงมือทำและอัปเดทสถานการณ์ตลอดเวลา สำหรับผม โดยส่วนตัวผมไม่เรียกว่าธุรกิจ เพราะธุรกิจมันต้องเดินไปได้ด้วยตัวมันเองและขยายผลได้ แบบที่สองเป็นอะไรที่น่าเบื่อในตอนแรก แต่น่าตื่นตาตื่นใจในตอนหลัง เพราะมันเป็นระยะยาว ผมเรียกธุรกิจออนไลน์จริงๆ แต่ต้องมีการเรียนรู้ศึกษารายละเอียดพอสมควร ต้องอดทนในระยะแรก สำหรับความเห็นผม…แน่นอน ถ้าใครติดตามอ่านบทความจากผมจะรู้ว่าผมเน้นธุรกิจออนไลน์แบบยั่งยืน ยืนยาว ระยะยาว เพราะมันทำให้บั้นปลายชีวิตผมสบาย… (โอ้ววว…จอร์จ ผมไม่ได้หมายความว่าผมถึงบั้นปลายชีวิตแล้วนะครับ 555) และบทความนี้ผมขอชี้เป้าให้มือใหม่ทั้งหลาย…หันเป้าไปที่การทำธุรกิจออนไลน์แบบยืนยาวครับ!   ใครชอบธุรกิจออนไลน์รูปแบบอื่นอาจจะอ่านแล้วไม่ถูกใจ…ไม่ว่ากันนะครับ ที่เขียนออกมาเป็นความคิดเห็นส่วนตัวจากประสพการณ์ของผมครับ แต่เดี๋ยว…ก่อนที่ผมจะพูดเรื่องขั้นตอนของการทำธุรกิจออนไลน์แบบยืนยาว…ขอแสดงตัวก่อนนะครับว่าผมไม่ได้หมายความว่า…การหาเงินจากวิธีแบบไม่ยืนยาวมันไม่ดีแต่อย่างใด…ผมแค่รู้สึกว่าเวลาของผมกับครอบครัวมีค่ามากมาย…จนผมไม่อาจจะยอมเสียมันไปกับการทำงานที่ไม่ได้ช่วยให้อนาคตสบายครับ เริ่มกันเลย…

แล้วธุรกิจอะไรแบบไหนที่ถือว่าเป็นธุรกิจออนไลน์แบบยืนยาว?
สำหรับผม มันคือธุรกิจที่เรามีการสร้างฐานลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายที่สนใจเฉพาะเรื่องเอาไว้ ซึ่งต้องอาศัยการ Research ดูว่าตลาดไหนที่กลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อและมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าเดิมหรือสินค้าที่ใกล้เคียงกันซ้ำๆ สำหรับผม…ไม่มีประโยชน์ถ้าสิ่งที่ทำไม่ได้แลกกับฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นมาครับ ใช่แล้วครับ ผมทำแค่นั้น… และผมเรียกมันว่า Niche Marketing ครับ
มันคือ Niche Marketing ว่าแต่ว่า…มันคืออะไรกันแน่?
มันคือการทำตลาดเฉพาะกลุ่มนั่นเอง ตัวอย่างเช่น การทำตลาด Niche Marketing สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการพัฒนาตัวเองด้วยเทคโนโลยี NLP (Neuro Linguistic Programming) ถ้าผมสนใจในตลาดหนึ่งๆ ผมก็จะทำตามขั้นตอนคร่าวๆดังนี้ครับ (เป็น Action Plan ประจำที่ผมชอบทำมากที่สุด)
ค้นคว้าก่อนว่าตลาดนี้มีกำลังซื้อมั้ย ถ้ามี…ทำขั้นตอนต่อไปได้เลย
Keyword Research หาคำที่เล่นง่าย
สร้างเว็บสำหรับ NLP ขึ้นมา
เขียนบทความเนื้อหาคุณภาพลงไปในเว็บ
ทำยังไงก็ได้เพื่อแลกกับอีเมล์ของผู้เข้าชมเว็บเรา เช่น แจก eBook “10 Tips to Shorten Your Learning Curve of NLP” จะดาวน์โหลดได้ฟรีโดยต้องแลกกับอีเมล์
สร้าง Traffic เข้ามาในเว็บ เก็บ Email ไปเรื่อยๆ
เวลาจะทำเงินก็ส่ง Email ออกไปโปรโมทขายของ เริ่มด้วย Affiliate Product ต่างๆนาๆ
เมื่อพิสูจน์แล้วว่าตลาดนี้ทำเงินได้ สร้าง Product ของตัวเองครับ
ส่ง Email เพื่อโปรโมทสินค้าของตัวเองแทน Affiliate Product ครับ
จริงๆแล้วมีขั้นตอนที่มากมายอยู่ในรายละเอียดมากกว่านี้เยอะมากครับ เขียนออกมาไม่หมดแน่นอน แต่ผมจะเขียนคร่าวๆให้พอเห็นภาพไปเริ่มต้นกันได้นะครับ เริ่มกันที่การทำ Niche Research หรือค้นหาว่าตลาดที่เราสนใจ มีกำลังซื้อหรือเงินรอเราอยู่มั้ย? มีวิธีทำได้หลายวิธีนะครับ แต่ลองง่ายๆคือไปไล่ตามดูฟอรัมหรือเว็บบอร์ดของตลาดนั้นๆครับ สมมติผมเลือกตลาดเรื่องการพัฒนาตนเองด้วย NLP นะครับ ไปที่กูเกิ้ลครับ ค้นหา “Keyword” ตามด้วยคำว่า forums ครับ ตัวอย่างของเราก็จะได้การค้นหาตามคำนี้ครับ “Self Improvement NLP forums” เมื่อเจอผลการค้นหาก็ไล่เข้าไปดูครับว่าเค้าคุยอะไรกันบ้าง เช่น… จะเห็นว่าเค้ามาถามหาคอร์สที่น่าสนใจ ประมาณว่าคนถามสนใจจะซื้อคอร์สแต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเอาคอร์สไหนดี เลยมาถามหาคนที่เคยมีประสพการณ์ครับ ลองดูไปเรื่อยๆก็จะเห็นครับว่าตลาดนี้ทำเงินหรือไม่ :) เมื่อเราดูแล้วเป็นไปได้ว่าตลาดนี้ทำเงินได้ ขั้นตอนต่อไปก็จะต้องไปทำ Keyword Research ดูครับว่ามีไอเดียอะไรที่เรามองข้ามหรือเปล่าและเราจะสามารถทำเว็บไปแข่งขันกับคู่แข่งได้ด้วย Keyword ไหน ใครมีเงินลงทุนก็ซื้อ Market Samurai หรือ Niche Finder ไปเลย แต่ถ้าไม่อยากลงทุนก็เริ่มด้วย Google AdWords Keyword Tool ครับ ใส่ Self Improvement NLP ลงไปเลยครับ ลองดู Keyword Ideas นะครับ ไม่ต้องไปสนใจ Search Volume มากมายในตอนนี้นะครับ

 เวลาเริ่มต้นผมแนะนำให้ซื้อ Traffic แทนที่จะทำ SEO ครับ เพราะคุณจะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาศึกษา SEO อีกครับ ไว้ศึกษาและทำตอนหลังได้ครับ หลังจากดู Keyword Ideas แล้ว เราจะเห็นว่าตลาดนี้ มีคำใดถูกค้นหาเยอะๆ ก็จดๆไว้ก่อนครับ เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอน Keyword Research ครับ ขั้นตอนต่อไป…สร้างเว็บครับ จดโดเมนมาหนึ่งตัวทีเกี่ยวข้องกับตลาดที่เราเลือกไว้ครับ แล้วติดตั้ง WordPress เลยครับ สำหรับ WordPress เป็นระบบโปรแกรมในการจัดการเว็บส่วนตัวที่ได้รับการพิสูจน์แล้วครับว่าของเค้าดีจริง ไม่ต้องคิดมาก จัด WordPress ไปเลย Hosting ใครมี cPanel ก็จัดการติดตั้งผ่าน Fantastico ได้เลยครับ ไม่กี่คลิกก็เสร็จแล้วครับ  หลังจากได้เว็บมาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือต้องหาเนื้อหาที่น่าสนใจมาเขียนลงเว็บเราครับ ทำง่ายๆคือเข้าไปดูตามฟอรัมหรือเว็บบอร์ดว่าเค้าชอบคุยหัวข้ออะไรเกี่ยวกับตลาดเรา ไปดูใน Yahoo Answers ช่วยด้วยก็ได้ครับ เราจะเห็นว่าคำถามอะไรถูกถามบ่อยๆ… ก็เอามานั่งเทียนเขียนใหม่ครับ ไม่แนะนำให้ Spin ใดๆทั้งสิ้นนะครับ เพราะมนุษย์ดูวูบเดียวก็รู้ว่า Spin มาครับ  ก็พยายามเขียนให้ได้มากที่สุดน่ะครับ อย่างน้อยวันละครั้ง ไม่ต้องสนใจเรื่องความยาวมากมายครับ เขียนได้ยาวก็เขียน สั้นก็เขียนครับ กูเกิ้ลชอบการที่เว็บเรามีเรื่องใหม่ๆอัปเดทเรื่อยๆครับ พอมีเนื้อหาบ้างแล้ว เราก็ไปตรวจสอบดูนะครับ ถ้าโชคดีอาจจะมีคนหลุดเข้ามาดูเว็บเราผ่านการค้นหาทาง Google ก็ได้ครับ นั่นเป็นสัญญานว่า Google เริ่มชอบเว็บเราครับ ก็เตรียมเก็บ List กันเลยครับ ในที่นี้ผมแนะนำให้ใช้พวกระบบ Autoresponder อย่าง Aweber, GetResponse, iContact ฯลฯ นะครับ ขอที่เป็นเจ้าตลาดนะครับ ไม่งั้นต่อไปเราจะปวดตับครับ  ระบบพวกนี้มีหน้าที่เอาไว้เก็บรวบรวมอีเมล์ให้เราครับ สิ่งที่เราต้องทำก็คือ สร้าง Follow-up Emails หรืออีเมล์อัตโนมัติเอาไว้ ซึ่งเมล์เหล่านี้จะถูกส่งไปให้ผู้ที่ยอมให้อีเมล์เรามาโดยอัตโนมัติครับ
 ตัวอย่างเช่น
Subject : Thank you for your subscription to NLP Mastermind Website   Body : Hi {!first_name},   Thanks for being our subscriber, we really appreciated your interesting.   Here you can download the report as promised. http://www.abc.com/downloads/10tipstoshortenNLP.pdf   I hope you will enjoy the benefits you get from “10 Tips to Shorten Your Learning Curve of NLP” report.   Let me know if you have any questions about NLP, we can help you sort it out.   Warm regards, James D.

ด้านบนนี้เป็น Welcome Email ตัวอย่างที่เราสร้างเอาไว้ต้อนรับคนที่ให้อีเมล์เราครับ และบอกลิ้งก์ให้ดาวน์โหลดของตามที่เราสัญญาไว้ครับ หน้าจอตัวอย่างของ Follow-up Messages เสร็จแล้วให้เอา Code ของ Form ในระบบ Autoresponder มาแปะไว้บน WordPress ของเราเพื่อให้มี Pop-up คอยเก็บอีเมล์ของผู้เยี่ยมชมครับ โดยเราก็ต้องไปแก้ไขฟอร์มให้บอกประมาณว่า Download The Exclusive Report “10 Tips to Shorten Your Learning Curve of NLP” for FREE แล้วให้ใส่อีเมล์เพื่อดาวน์โหลดครับ  ทดสอบให้มั่นใจว่าการทำงานของระบบ Autoresponder ของเราทำงานเรียบร้อยดี ตอนนี้เราก็จะพร้อมสำหรับการหา Traffic มาลงเว็บเราเพื่อเก็บอีเมล์แล้วครับ เริ่มด้วย PPC Traffic เลยครับ Google AdWords หรือ Facebook Ads ก็ได้ครับ ให้บิด Keyword ที่เรา Research มาได้ครับ พยายาม Optimize แคมเปญคุณให้ได้ CPC ต่ำๆไว้ก่อนนะครับ ทีนี้เราก็รอไปเรื่อยๆครับ ลิสท์ของเราก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จากสิบไปร้อย จากร้อยไปพัน จากพันไปหมื่น… ส่วนจากหมื่นไปแสนก็นานหน่อยนะครับ 555 เวลาต้องการเงินมาจ่ายค่า PPC คืนบ้างก็ให้ Broadcast Email โปรโมทของออกไปครับ แต่ก่อนหน้านั้นควรเมล์ไปสร้างความสัมพันธ์ไว้บ้างก็ดีนะครับ จะได้ไม่เห็นว่าเราพยายามจะขายของอย่างเดียว เมื่อทำไปได้สักพัก… ถ้าเราเห็นว่า Affiliate Product ทำเงินให้เราได้พอสมควร… ชัวร์มากๆว่าเราทำเงินได้แน่นอน ให้สร้าง Product มาขายเองเลยครับ เราจะได้สิทธิประโยชน์เพิ่มมากขึ้นจนพวกบัตรเครดิตรวมๆกันหลายๆใบยังต้องอายครับ ที่สำคัญคือกำไรคุณจะเพิ่มอีกเป็นเท่าๆตัวครับ  กำไรมันจะเพิ่มเป็นเท่าๆได้อย่างไรครับ?  ของๆเราเอง ได้กำไรเต็มๆ Pure Profit ครับ แต่ก่อนโปรโมทขายของคนอื่นราคา $67 ได้ Commission ชิ้นละ $37 ถ้าขายของตัวเองราคา $67 ก็ได้เต็มๆครับ
ได้ Traffic เพิ่มจากการไปเกณฑ์ Affiliate Marketers ตามเครือข่ายต่างๆครับ จาก Traffic ที่เราเคยได้ 100% จะสามารถโดดไปเป็น 1,000% ได้เลยครับ แถมเราสามารถ Tracking Traffic ที่ Affiliate Marketers ส่งมาได้ด้วยครับ อิอิ
โอกาสในการ JV กับคู่แข่งหรือผู้ขายสินค้าในตลาดใกล้เคียงกันครับ ทำเงินได้มากและรวดเร็วครับ :)

สำหรับมือใหม่หัดขับก็คงพอเห็นภาพรวมๆคร่าวๆกันมากขึ้นแล้วนะครับ
อาจจะรู้สึกว่ารายละเอียดมันเยอะกว่าที่จินตนาการไว้ใช่มั้ยครับ? จริงๆแล้วมันเยอะกว่าที่เห็นในบทความนี้อีกเยอะเลยครับ :)
และปัญหาของมือใหม่ส่วนใหญ่ที่รู้ขั้นตอนเหล่านี้ก็คือ…
จะหาไอเดียของตลาดมาจากไหนครับ (ในตัวอย่างคือเรื่อง NLP) ถ้าใครไม่มีไอเดียผุดขึ้นมาในหัว ก็ลองดูตามแหล่งนี้ครับ
Clickbank
eBay Pulse
Google Trends
Google Insights for Search
Amazon best sellers
OfferVault
eHow
Youtube
Fiverr
ไป Browse เล่นๆดูนะครับ น่าจะเจอไอเดียเพียบนะครับ อันไหนน่าสนใจก็ให้ไปลองทำ Niche Research ดูว่ามีเม็ดเงินรอเราอยู่หรือเปล่านะครับ :) ลองฝึกหัดคิดและทำกันเยอะๆนะครับ ยิ่งคิดไม่ได้ทำให้ยิ่งคล่อง ยิ่งลองทำถึงจะยิ่งคล่อง เมื่อคล่องแล้วจะเหมือนเวลาเราขี่จักรยานเลยครับ   เราจะเล่นท่าได้ตามแต่จินตนาการ ไม่มีขีดจำกัด และมันเป็นเม็ดเงินทั้งนั้นนะครับ :) ขอให้โชคดีครับ

เจ้าของบทความ: internetmarketingthailand
ผมเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์และ ณ ปัจจุบันบทความนี้ไม่มีอยู่บนอินเตอร์เน็ตแล้ว 
จึงนำมาแชร์ต่อเพื่อเป็นวิทยาทาน 

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

Latest

Hit Me